|
ปวารณา
* * * สังฆปวารณา ( มีภิกษุตั้งแต่ 5 รูปขึ้นไป พึงตั้งญัตติ
ดังนี้ว่า ) * * * ( 1 )
“สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ , อัชชะ ปะวาระณา ยะทิ สังฆัสสะ
ปัตตะกัลลัง , สังโฆ ปะวาเรยยะ”
“ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า
วันนี้เป็น
วันปวารณา
/////
ถ้าความพรั่งพร้อมของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงปวารณา”
ภิกษุผู้
เถระ
/////
พึงห่มผ้า
อุตราสงค์
/////
เฉวียงบ่า
นั่งกระโหย่ง
/////
ประคองอัญชลี แล้วกล่าวปวารณาอย่างนี้ ว่าดังนี้
สังฆัง อาวุโส ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา ,
วะทันตุ มัง อายัส๎มันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ , ปัสสันโต
ปะฏิกกะริสสามิ
ทุติยัมปิ อาวุโส สังฆัง ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา
ปะริสังกายะ วา , วะทันตุ มัง อายัส๎มันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ ,
ปัสสันโต ปะฏิกกะริสสามิ
ตะติยัมปิ อาวุโส สังฆัง ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา
ปะริสังกายะ วา , วะทันตุ มัง อายัส๎มันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ ,
ปัสสันโต ปะฏิกกะริสสามิ
ภิกษุผู้
นวกะ
/////
พึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง ประคองอัญชลี
แล้วกล่าวปวารณา ( เช่นเดียวกัน โดยเปลี่ยนคำว่า อาวุโส เป็น ภันเต
)
* * * คณะปวารณา ( มีภิกษุ 4 รูป หรือ 3 รูป )
ภิกษุ 4 รูปพึงตั้งญัตติ ดังนี้ว่า
สุณันตุ เม อายัส๎มันโต , อัชชะ ปะวาระณา ยะทายัส๎มันตานัง
ปัตตะกัลลัง , มะยัง อัญญะมัญญัง ปะวาเรยยามะ
(
ถ้ามีภิกษุ 3 รูป ให้เปลี่ยนคำว่า อายัส๎มันโต เป็น อายัส๎มันตา )
ภิกษุผู้เถระพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า
นั่งกระโหย่ง ประคองอัญชลี แล้วกล่าวปวารณาอย่างนี้ ว่าดังนี้
อะหัง อาวุโส อายัส๎มันเต ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา … ฯลฯ
… ปะฏิกกะริสสามิ ,
ทุติยัมปิ อาวุโส อายัส๎มันเต … ปะฏิกกะริสสามิ ,
ตะติยัมปิ อาวุโส อายัส๎มันเต … ปะฏิกกะริสสามิ
ภิกษุผู้นวกะพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง
ประคองอัญชลี แล้วกล่าวปวารณา ( เช่นเดียวกัน โดยเปลี่ยนคำว่า
อาวุโส เป็น ภันเต )
* * * คณะปวารณา ( มีภิกษุ 2 รูป )
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุทั้งสองพึงปวารณาอย่างนี้ :
ภิกษุผู้เถระพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง
ประคองอัญชลี แล้วกล่าวคำปวารณาต่อภิกษุผู้นวกะอย่างนี้ ว่าดังนี้
:
อะหัง อาวุโส อายัส๎มันตัง … ฯลฯ … ปะฏิกกะริสสามิ ,
ทุติยัมปิ อาวุโส อายัส๎มันตัง … ฯลฯ … ปะฏิกกะริสสามิ ,
ตะติยัมปิ อาวุโส อายัส๎มันตัง … ฯลฯ … ปะฏิกกะริสสามิ ,
ภิกษุผู้นวกะพึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง
ประคองอัญชลี แล้วกล่าวคำปวารณาต่อภิกษุผู้เถระ ( เช่นกัน
โดยเปลี่ยนคำว่า อาวุโส เป็น ภันเต )
* * * อธิษฐานปวารณา ( มีภิกษุรูปเดียว )
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ใน
อาวาส
/////
แห่งหนึ่ง ถึงวันปวารณา มีภิกษุ ในศาสนานี้อยู่รูปเดียว
ภิกษุนั้นพึงกวาดสถานที่เป็นที่ไปมาแห่งภิกษุทั้งหลาย
คือจะเป็นโรงฉัน มณฑปหรือโคนต้นไม้ ก็ตาม แล้วจัดตั้งน้ำฉัน
น้ำใช้ไว้ ปูอาสนะ ตามประทีป แล้วนั่งรออยู่
หากมีภิกษุเหล่าอื่นมา พึงปวารณาร่วมกับพวกเธอ
หากไม่มีมาพึง อธิษฐานว่า “อัชชะ เม ปะวาระณา ปวารณาของเราวันนี้”
หากไม่อธิษฐาน ต้อง
อาบัติทุกกฏ
/////
|
|